การถ่ายโอนภารกิจของกระทรวงมหาดไทยให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในปีงบประมาณ 2543 และ 2544
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาการดำเนินงานของหน่วยงานที่ถ่ายโอนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการรับการถ่ายโอนภารกิจจากกระทรวงมหาดไทย
2. เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัดในการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3. เพื่อเสนอแนวทางการถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระยะต่อไป
ข้อค้นพบ 1. ด้านปัจจัยนำเข้า บุคลากรของท้องถิ่นส่วนใหญ่ขาดประสบการณ์ด้านช่าง การออกแบบรายละเอียดโครงการ การกำหนดราคากลาง ท้องถิ่นส่วนใหญ่ขาดเครื่องมือ เครื่องจักรกล โดยเฉพาะ อบต. ชั้น 3 5 แนวทางปฏิบัติบางด้านไม่ชัดเจน
2. ด้านกระบวนงาน การดำเนินงานกลุ่มงานทาง พบว่า อบต.ส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินการได้เองอย่างเบ็ดเสร็จ และยังต้องพึ่งพาหน่วยงานถ่ายโอน การดำเนินงานกลุ่มงานสะพาน พบว่า อบต. ยังต้องให้หน่วยงานถ่ายโอนดำเนินการในขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสมโครงการ การสำรวจออกแบบ การประมาณราคากลาง การทดสอบวัสดุ และการตรวจการจ้าง การดำเนินงานกลุ่มงานน้ำ (บ่อบาดาล ระบบประปา แหล่งน้ำมาตรฐาน กข.) พบว่า อบต. ส่วนใหญ่ยังต้องให้หน่วยงานถ่ายโอนดำเนินการขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสมโครงการ การสำรวจออกแบบ การทดสอบคุณภาพน้ำ การควบคุมงาน การตรวจการจ้าง การดำเนินงานกลุ่มงานพัฒนาคุณภาพชีวิต พบว่า หน่วยงานถ่ายโอนมีบทบาทขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติงบประมาณ การชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานไม่ชัดเจน
3. ด้านผลการดำเนินงาน ผลงานกลุ่มงานทางและกลุ่มงานสะพาน เฉลี่ยร้อยละ 90 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนกลุ่มงานพัฒนาแหล่งน้ำเป็นไปตามแผนเพียงร้อยละ 60 ของปริมาณงานทั้งหมด
4. ด้านปัญหาอุปสรรค ภารกิจงานโครงการบางอย่างไม่สนองความต้องการที่แท้จริงของท้องถิ่น บุคลากรด้านช่างของท้องถิ่นยังไม่มีโอกาสเรียนรู้จากส่วนราชการที่ถ่ายโอนโดยเฉพาะขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการ อบต. ส่วนใหญ่ขาดความพร้อมด้านบุคลากรทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ขาดเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล การกำหนดงบประมาณโครงการขุดเจาะบ่อบาดาลไว้ในอัตราเดียวกันทั่วประเทศไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ อบต. บางแห่งไม่ยินยอมให้ผู้แทนของส่วนราชการที่ถ่ายโอนเป็นคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอ้างว่าปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 แล้ว บทบาทของกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบทและกรมโยธาธิการในการเข้าร่วมดำเนินการกับท้องถิ่นแตกต่างกัน ทั้งๆ ที่เป็นงานประเภทเดียวกัน ส่วนราชการที่ถ่ายโอนขาดการประสานงานเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติแก่ท้องถิ่นในคราวเดียวกัน แม้นว่าเป็นภารกิจที่เหมือนกัน ทำให้ท้องถิ่นต้องไปรับฟังการชี้แจงหลายครั้งโดยไม่จำเป็น ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงความเป็นมาของโครงการที่ถ่ายโอน
ข้อเสนอ 1. การถ่ายโอนภารกิจให้แก่ท้องถิ่นควรคำนึงถึงศักยภาพของท้องถิ่นแต่ละระดับและห้วงเวลาที่เหมาะสม
2. สำนักงบประมาณควรกำหนดให้ชัดเจนว่า ส่วนราชการเจ้าของงบประมาณหรือส่วนราชการที่ถ่ายโอนจะต้องเข้าร่วมดำเนินงานในขั้นตอนใดบ้าง บทบาทแค่ไหน ฐานะใด และกำหนดกิจกรรมที่จะถ่ายโอนในปีต่อไปโดยเร็ว พร้อมแจ้งส่วนราชการเจ้าของงบประมาณจัดทำแผนปฏิบัติงาน เพื่อให้ท้องถิ่นมีเวลาจัดเตรียมการ รวมทั้งควรพิจารณากำหนดเงินเพื่อซ่อมบำรุงทรัพย์สินที่ส่วนราชการต้องถ่ายโอน เพื่อมิให้เป็นภาระให้แก่ท้องถิ่น
3. กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบทและกรมโยธาธิการควรร่วมกันพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติว่า ทั้งสองหน่วยงานควรเข้ามีส่วนในการดำเนินงานโครงการประเภทใด ขั้นตอนใด ฐานะใด
4. ควรกำหนดมาตรฐานและเวลาปฏิบัติงานของขั้นตอนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขออนุมัติโครงการการจัดซื้อจัดจ้างให้ชัดเจน
5. ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านการถ่ายโอนภารกิจให้แก่ท้องถิ่น ควรให้ส่วนราชการที่ถ่ายโอนมีส่วนร่วมดำเนินงานกับท้องถิ่นในงานประเภทโครงสร้งพื้นฐานไประยะหนึ่ง
6. ควรเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักแก่ประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมตรวจสอบกระบวนการดำเนินกิจการสาธารณะของท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายโอน
7. ควรกำหนดเป็นหลักการในแผนปฏิบัติการการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นว่า การ พิจารณาอนุมัติงบประมาณโครงการถ่ายโอนต้องยึดตามแผนพัฒนาของท้องถิ่น
8. ควรปรับแก้ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 ให้ประธานกรรมการบริหารและสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมีอำนาจในการสั่งซื้อสั่งจ้างสูงกว่าที่กำหนดไว้เดิม
9. ควรเร่งการถ่ายโอนบุคลากรให้ท้องถิ่น
10. ควรพิจารณาทบทวนปรับโครงสร้างของ อบต. ให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่ โดยเฉพาะกรอบอัตรากำลังของ อบต. ชั้น 3 5 ควรขยายเพิ่มให้สอดคล้องกับภารกิจ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ. ระเบียบงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
ปีงบประมาณที่ดำเนินการ 2544
ผู้ศึกษาวิจัย นายประเสริฐ แย้มสรวล
นางสาวอุษา ปัญญาวดี